Search This Blog

Wednesday, October 28, 2009

หยุดภูมิแพ้..... แค่จัดบ้าน!

คนที่รู้สึกผิดสังเกต เมื่อต้องไปอยู่ในที่มีฝุ่นมาก ฝนตก หรือหน้าหนาวแล้วรู้สึกคัน และแสบจมูกบ่อย ๆ แสบตา เคืองตา คันคอ ไอในช่วงกลางคืน หรือตื่นตอน ตามด้วยอาการเหมือนจะเป็นหวัดคัดจมูก นั่นแสดงว่า คุณมีแนวโน้มว่าจะเป็นภูมิแพ้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งเข้าแล้ว

ปัจจุบันมีคนที่เป็นโรคภูมิแพ้กันมากขึ้น สำรวจง่าย ๆ จากการถามคนรอบข้างจะพบว่า 1 ใน 10 มีอาการภูมิแพ้ บางคนแพ้ฝุ่น บางคนแพ้อากาศ แพ้อาหาร หอบหืด ซึ่งมีอาการตั้งแต่เล็ก ๆ น้อย ๆ ไปจนถึงต้องรับประทานยาอยู่จนเป็นกิจวัตร

แบ่งของเป็นสัดส่วนกันฝุ่นไรเติบโต

ข้อมูลสถิติของการเกิดโรคภูมิแพ้อากาศ และหอบหืดในประเทศไทย ย้อนหลังไปในระยะ 15 ปี เฉพาะในเขตกรุงเทพฯ พบว่า มีผู้ป่วยเพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างน่าตกใจ โดยมีผู้ที่ป่วยเป็นภูมิแพ้อากาศจากเดิม 13 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มเป็น 49 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งโดยมากจะพบในเด็กเล็ก จนกระทั่งถึงวัยมัธยม

สำหรับหอบหืด ที่พบในเด็กเล็กเป็นส่วนมากนั้น ข้อมูลระบุว่าเพิ่มจาก 4 เปอร์เซ็นต์ เป็น 13 เปอร์เซ็นต์ โดยบางคนจะหายไปในช่วงวัยทำงาน ซึ่งภูมิคุ้มกันแข็งแรง แต่กระนั้นภูมิแพ้ก็กลับมาได้ทุกเมื่อ ถ้าหากมีสิ่งมาช่วยกระตุ้น

ตุ๊กตาขนฟู อย่าวางบนหัวนอนมากนัก รู้ไหม! มันคือตัวสะสมฝุ่น

ไม่เพียงเท่าที่ปรากฏจากสถิติเท่านั้น กลุ่มโรคภูมิแพ้เกิดได้ กับหลายระบบในร่างกาย อาการของโรคภูมิแพ้ เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ที่ทำงานมากเกินไป ทำให้เยื่อบุที่อวัยวะต่าง ๆ มีความไวต่อสิ่งกระตุ้น เช่น
  • ถ้าเป็นที่ตา เรียกว่า เยื่อบุตาอักเสบจากภูมิแพ้
  • ถ้าเป็นที่จมูก เรียกว่า โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ หรือเรียกว่า แพ้อากาศ
  • ถ้าเป็นที่หลอดลม เรียกว่า หลอดลมอักเสบจากภูมิแพ้ หรือ หอบหืด
  • ถ้าเป็นที่ผิวหนัง เรียกว่า ผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้
  • ถ้าเป็นที่ระบบทางเดินอาหาร เรียกว่า แพ้อาหาร

โดยทั่วไปภูมิแพ้จะเกิดจากพันธุกรรมส่วนหนึ่ง แต่หากใครโตมา ในสภาวะที่ไม่มีมลพิษในอากาศโอกาสที่โรคจะแสดงอาการก็ไม่มี หรือน้อย แต่หากอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่แออัด ชื้น หรือความปรวนแปรของอากาศก็กระตุ้นให้เกิดโรคได้

สาเหตุที่ทำให้คนเมืองใหญ่ เกิดอาการภูมิแพ้มากกว่า เนื่องเพราะในเมืองมีมลพิษจากการก่อสร้าง การจราจร และฝุ่นละอองหนาแน่น และคนก็นิยมเลี้ยงสัตว์ในบ้านมากขึ้น เหล่านี้ล้วนเป็นตัวก่อ และกระตุ้นภูมิแพ้ได้ดี คนที่เป็นภูมิแพ้ไม่ควรเลี้ยงสัตว์ชนิดใดในบ้าน

จัดบ้านต้านภูมิแพ้ได้

การจัดห้องใหม่ โละของเก่า ๆ ลงกล่องบ้าง และจัดวางตำแหน่งโน่นนิด นี่หน่อย แต่รู้ไหม? ว่านี่สามารถลดอาการภูมิแพ้ได้!!!

" การจัดตกแต่งบ้าน " โดยเฉพาะห้องนอน ซึ่งเป็นสิ่งแวดล้อมที่อยู่ใกล้ตัวมากที่สุดนั้น สำคัญต่อ สุขภาพเรามาก เนื่องจาก เป็นพื้นที่ที่เราใช้เวลาอยู่เกือบ 2 ใน 3 ของวัน ดังนั้น เราจึงจำเป็น ที่จะต้องใส่ใจการตกแต่งห้องนอน ให้มากกว่าห้องอื่น ๆ

“ พันธุกรรม " เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เราลดทอนความรุนแรงจากไรฝุ่น ฝุ่นบ้าน ฝุ่นที่นอน ฝุ่นแมลงสาบ ซึ่งต้องเจอทุกวันได้ ดังนั้น บ้านโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ห้องนอนจำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นอย่างดี

การจัดบ้านเริ่มต้นง่าย ๆ ที่ห้องนอน ที่ต้องให้มีของน้อยที่สุด ไม่ควรมีชั้นวางหนังสือ ของสะสม เช่น ตุ๊กตาประเภทขนฟู เพราะเป็นแหล่งสะสมฝุ่นชั้นดี และหากจำเป็นจริง ๆ ควรเก็บใส่ในตู้ชนิดที่มีบานกระจก ซึ่งจะช่วยกันฝุ่น และทำความสะอาดได้ง่าย ตู้เสื้อผ้าไม่ควรตั้งในห้องนอน เนื่องจาก ฝุ่นจากเส้นใยผ้าจะก่อให้เกิดอาการแพ้ แต่หากเลี่ยงไม่ได้ก็ไม่ว่ากัน

" สิ่งที่ควรจะมี ในห้องนอนของคนเป็นภูมิแพ้ " ก็คือ เตียงขาลอยไม่มีชั้น เพราะจะได้ทำความสะอาดง่าย ผ้าม่านควรเลือกแบบที่ถอดซักได้บ่อย ๆ และปัจจุบันมีผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม และหมอนกันไรฝุ่น สำหรับคนแพ้อากาศออกมาแล้ว แต่ราคาอาจจะสูง แต่ถ้าจะให้ดีควรทำความสะอาดเครื่องนอนอาทิตย์ละครั้ง และต้องหมั่นเอามาตากแดด ปัดกวาดเช็ดถูห้องให้เป็นกิจวัตร ไรฝุ่นจะได้ไม่สะสม

สำหรับจุดตั้งเตียงนั้น ควรอยู่ในตำแหน่งที่แสงแดดส่องถึง เพื่อกันความชื้น และห้ามตากผ้าในห้องนอนเด็ดขาด เพราะจะเป็นแหล่งฟูมฟักไรฝุ่นให้เติบโต หมั่นเปิดหน้าต่างรับลม รับแดดจ้าเพื่อฆ่า และลดจำนวนตัวไรในห้อง

ถ้าอยู่บ้านเรา เลี่ยงเก็บเฟอร์นิเจอร์บางอย่าง หรือชั้นหนังสือไว้ในอีกห้อง แต่หากอยู่อพาร์ตเมนต์ หรือคอนโดมิเนียม การจัดวางตำแหน่ง เป็นสิ่งที่ควรใส่ใจ การเก็บของลงกล่อง หรือตู้ที่มิดชิดได้ก็จะเป็นการดี

อย่างไรก็ตาม หากคนที่ชอบตกแต่งห้องนอน แต่จำใจจะต้องทำให้ห้องโล่งนั้น อาจจะลำบากใจพอสมควร ดังนั้น การเลือกใช้วอลล์เปเปอร์ ที่มีลวดลายติดผนัง สร้างสีสันให้ภายในห้องนอนแทน ซึ่งควรจะเลือกกระดาษมัน ที่ง่ายต่อการทำความสะอาด และหากเกิดเก่าชำรุด ก็ต้อง เปลี่ยน ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นแหล่งสะสมฝุ่น

หมั่นดูดฝุ่นในห้องนอนเสมอ

ในกรณีที่แพทย์ลงความเห็นว่า คนในครอบครัวเป็นหอบหืด หรือภูมิแพ้อากาศ อย่างแรกที่สุด ที่จะต้องทำ ก็คือ เปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่ และหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ให้มากที่สุด

นอกจาก วิธีการกำจัดฝุ่นในบ้าน และปรับย้ายตำแหน่งของเครื่องใช้ บางอย่างแล้ว การเลือกเครื่องใช้บางอย่างสำหรับคนเป็นภูมิแพ้ด้วย มีดังนี้
  • ที่นอน ควรจะเปลี่ยนเป็น ที่นอนที่ทำจากวัสดุสังเคราะห์ เพราะสามารถทำความสะอาดได้ง่ายกว่าที่นอนนุ่น ถ้าจะหุ้มที่นอนด้วยพลาสติกได้ยิ่งดี หากเป็นคนขี้ร้อน ก็ต้องเลือกผ้าปูที่นอนที่มีรูน้อยที่สุด
  • ห้ามใช้หมอน ที่ทำด้วยนุ่น ขนห่าน หรือขนเป็ดโดยเด็ดขาด
  • ควรใช้เครื่องดูดฝุ่น ในห้องตามพรม พื้น และผ้าม่านในห้อง และถ้าเป็นไปได้ เอาม่าน และพรมออกจากห้องเสียให้หมด
  • เวลาทำความสะอาด ไม่ควรใช้ไม้กวาดขนไก่ปัดฝุ่น แนะนำให้ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดแทน
  • ถ้าจำเป็นจะต้องใช้ผ้าม่าน ควรจะซักทุก 6 สัปดาห์
  • ไม่ควรเลี้ยงสัตว์ชนิดใดในบ้าน
  • แม้ว่า ไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ใด ๆ ที่ยืนยันว่า เครื่องกรองอากาศจะสามารถช่วยให้ผู้ป่วยหอบมีน้อยลงได้ แต่ก็อาจจะใช้ได้ผล ในกรณีที่แพ้ละอองเกสรของหญ้า หรือต้นไม้อื่น ๆ
  • คนในบ้านก็ไม่ควรสูบบุหรี่ และหากจำเป็น มีแขกมาเยี่ยม ก็ต้องกล้าบอกให้เขางดบุหรี่ด้วยเช่นกัน

โรคภูมิแพ้ ถือว่าเป็นโรคเรื้อรังก็จริงอยู่ แต่ถ้าหากตัวผู้ป่วย และคนรอบข้าง ให้ความใส่ใจในการดูแลสุขภาพ หาวิธีป้องกันที่ได้ผล และหากเกิดอาการแล้ว ไม่ปล่อยให้มีอาการแทรกซ้อน ภูมิแพ้ก็ไม่ถือว่าเป็นอุปสรรคใหญ่ในการดำเนินชีวิต และคงไม่ต้องถึงขั้นต้องรับประทานยาเป็นอาจิณดอก.

ที่มา
ผศ. นพ. กิตติ โตเต็มโชคชัยการ
คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

No comments:

Post a Comment