Search This Blog

Tuesday, October 20, 2009

ยืดเส้น ยืดสาย สไตล์ฤๅษีดัดตน

ปัจจุบัน หลายคนเริ่มให้ความสำคัญ และตื่นตัว กับการดูแลรักษาสุขภาพมากขึ้น วิธีหนึ่งที่ทำได้ง่าย และได้ประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างยิ่ง คือ การออกกำลังกาย กระทั่งทำให้สถาบันที่ให้บริการด้านสุขภาพเกิดขึ้นมากมาย เพื่อดูดเงินจากกระเป๋าของผู้รักสุขภาพทั้งหลาย แต่จะคุ้มค่ากับเงินที่ต้องจ่ายหรือไม่ นั่นแล้วแต่กรณี

ทั้งนี้ การออกกำลังกายมีหลากหลายรูปแบบ แต่แบบที่อยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน และสามารถทำกันได้ โดยไม่ต้องเสียเงินก็คือ “ ฤๅษีดัดตน ” ซึ่งต่อมาได้ถูกนำมาปรับใช้ ให้เป็นการออกกำลังกายในสไตล์ไทย ๆ และได้ผลดีอย่างมาก

สารพัดประโยชน์แห่งฤๅษีดัดตน

“ ฤๅษีดัดตน ” ถือเป็นองค์ความรู้ ของการแพทย์แผนไทยแขนงหนึ่ง โดยในอดีตท่าฤๅษีดัดตนมีคุณค่าต่อการรักษาสุขภาพอย่างมาก ทำให้สถาบันแพทย์แผนไทย ได้ศึกษาและรวบรวมองค์ความรู้ วิธีปฏิบัติในเรื่องดังกล่าวขึ้น

อย่างไรก็ตาม การที่จะนำท่าฤๅษีดัดตนทั้ง 127 ท่า มาเป็นท่าออกกำลังกายทั้งหมด คงเป็นเรื่องยาก เพราะบางท่ายากเกินไปที่จะทำ จึงต้องเลือกท่าที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ที่มีทั้งสิ้น 14 ท่า โดยเริ่มจากท่าพื้นฐาน ทั้งแนวราบ แนวดิ่ง ไปจนถึงท่าที่ค่อย ๆ เพิ่มความยากขึ้น พร้อมกันนี้ ก็ได้นำความรู้ทางเวชศาสตร์ฟื้นฟู และกายภาพบำบัดมาประยุกต์ ควบคู่กันไปในการพิจารณาแต่ละท่าว่า จะนำมาใช้ในการบริหารกล้ามเนื้อส่วนไหน และให้ประโยชน์กับร่างกายอย่างไร

เบื้องต้นจะเน้นไปที่ การป้องกัน ส่งเสริมสุขภาพ การแก้อาการ หากมีอาการเล็กน้อย การบริหารนี้ก็จะช่วยได้มาก เพียงแต่ว่าการจะเห็นผลหรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับอาการว่า จะเป็นมากน้อยแค่ ไหน และตอนนี้บางท่าได้เข้าสู่กระบวนการทำวิจัย เพื่อใช้ในการรักษาโรค ซึ่งก็ต้องรอข้อมูลยืนยันอีกครั้ง

" ฤๅษีดัดตน " แตกต่างกับการออกกำลังกายทั่วไป เพราะเป็นการเคลื่อนไหวแบบช้า ๆ ค่อยเป็นค่อยไป เหมาะกับกลุ่มที่มีปัญหาเฉพาะส่วน อย่างหัวเข่า ข้อกระดูกต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการกระแทก หรืออุบัติเหตุโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มผู้สูงอายุ หรือผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับข้อต่อ ซึ่งไม่เหมาะกับการออกกำลังกาย ที่ต้องใช้แรงมาก ๆ

ประโยชน์ที่ได้รับ


แน่นอนว่าการออกกำลังกาย เพื่อที่เราจะได้กำลังที่สามารถปฏิบัติได้ด้วยตัวเอง ด้วยการยืดร่างกาย ยืดกล้ามเนื้อ และยังช่วยให้เกิดการบำบัดอาการเบื้องต้น เป็นการป้องกันการเกิดอาการของโรคที่อาจลุกลาม เช่น หากมีการปล่อยให้กล้ามเนื้อมีความเครียด จะทำให้เกิดการแข็งตึงได้ จากนั้นจะเริ่มปวด จนทำให้เกิดการอักเสบ ส่งผลให้ร่างกายมีโครงสร้างที่ผิดปกติได้

ฤๅษีดัดตนเป็นศาสตร์การรักษาป้องกัน ที่ค่อยเป็นค่อยไป เพื่อคลายให้อาการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้เกิดการฝึกสมาธิ ฝึกลมหายใจ เพราะโดยปกติแล้ว คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้เลยว่าหายใจถูกต้องหรือไม่ บางคนหายใจเข้าแต่ท้องแฟบ หากเป็นเช่นนั้น จะทำให้เกิดการหายใจเร็ว ซึ่งไม่ถูกต้อง พอมาฝึกตรงนี้ ก็จะได้ฝึกลมหายใจที่ถูกต้อง เพื่อให้อากาศเข้าได้อย่างเต็มที่ การไหลเวียนของเลือดก็จะดี ระบบในร่างกายจะเป็นปกติ อีกทั้งยังได้สมาธิ เพราะการบริหารในแต่ละท่า ทุกส่วนของร่างกายต้องมีความผสานกัน จะทำให้เรามีสมาธิที่จดจ่ออยู่กับท่านั้น ๆ ทำให้จิตเป็นปัจจุบัน และเป็นการคลายเครียดอีกด้วย

นอกจากนี้ ยังช่วยสร้างสมดุลโครงสร้างของร่างกาย เพราะในชีวิตประจำวันนั้น บางครั้งเราใช้อิริยาบถที่ไม่เหมาะสม ที่ยังเป็นปัญหาที่ซ้ำเติม ให้เกิดการบาดเจ็บได้ เกิดความเครียดของกล้ามเนื้อ ซึ่งก็จะเป็นต้นเหตุให้ปัญหาต่าง ๆ ตามมา การบริหารโดยฤๅษีดัดตนจะช่วยปรับโครงสร้างของร่างกาย อย่างน้อยในหนึ่งวัน ควรบริหารให้ได้ 1-2 ชั่วโมง ดีกว่าไม่ทำเลย

ท่าพื้นฐาน พิชิตโรค

ในส่วนของท่ายืดเส้น ยืดสาย ในรูปแบบของฤๅษีดัดตน ที่ได้มีการคัดเลือกให้เป็นท่า ที่ใช้ในการออกกำลังกาย พื้นฐานนั้น

ท่าแรก คือ ท่าฤๅษีดัดตนบริหารใบหน้า จะเน้นการผ่อนคลายในขณะทำงาน หรือใช้จัดการกับความเครียด ที่บริหารทุกส่วนของใบหน้าทั้งแก้ม หน้าผาก กกหู ไปจนถึงศีรษะ

ท่าที่ 2 ท่าฤๅษีดัดตนแก้ลมในลำลิงค์
เป็นท่าที่ใช้ในการบริหารช่วงแขนทั้งหมด ข้อศอก ไหล่ จนถึง ลำคอ และหลัง

ท่าที่ 3 ท่าฤๅษีดัดตนแก้ปวดท้อง-ข้อเท้า

ท่าที่ 4 ท่า ฤๅษีดัดตนแก้ลมเจ็บศีรษะ และตามัว เป็นท่าที่ให้การคลายกล้ามเนื้อ บริเวณบ่า และคอ จะทำให้เลือดขึ้นไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น ลดอาการเวียนศีรษะ

ท่าที่ 5 ท่าฤๅษีดัดตนขัดแขน แขนขัด เน้นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อบริเวณแขน

ท่าที่ 6 ท่าฤๅษีดัดตนแก้กล่อน และแก้เข่าขัด

ท่าที่ 7 ท่าฤๅษีดัดตนแก้กล่อนปัตคาด เป็นท่าที่เน้นการแก้ปวดข้อต่างๆ เช่น เข่า หลัง

ท่าที่ 8 ท่าฤๅษีดัดตนแก้ลมในแขน เน้นการแก้ปวดแขนเป็นหลัก

ท่าที่ 9 ท่าฤๅษีดัดตนดำรงกายอายุยืน เป็นท่าที่เน้นการทรงตัว ใช้ทดสอบการทรงตัว มีผลต่อการบริหารสะโพก

ท่าที่ 10 ท่าฤๅษีดัดตนแก้ไหล่ขา และเข่าขา เป็นท่าที่บริหารแก้ปวดหลัง

ท่าที่ 11 ท่าฤๅษีดัดตนแก้ตะคริว มือ เท้า เป็นท่าที่เน้นการบริหาร ให้เกิดการทรงตัวที่ดี ซึ่งส่งผลดีต่อข้อเข่า และสะโพก

ท่าที่ 12 ท่าฤๅษีดัดตนแก้สะโพกสลักเพชร ท่านี้เป็นท่าที่ให้ประโยชน์ในการบริหารตลอดแนวขาทั้งหมด

ท่าที่ 13 ท่าฤๅษีดัดตนแก้ลมเลือดนัยน์ตามัว แก้ลมรันรัดทั้งตัว

ท่าที่ 14 ท่าฤๅษีดัดตนแก้เมื่อยปลายมือ ปลายเท้า เป็นท่าสุดท้ายที่จะให้การบริหารกับทุกส่วนของร่างกาย

การให้ความสำคัญกับการออกกำลังกาย ซึ่งจะเป็นในรูปแบบใดก็ได้ แค่ได้ออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง และควรให้ความสำคัญ ในเรื่องของความเหมาะสมกับรูปแบบการออกกำลังกาย ที่เหมาะกับร่างกายจะรับไหว เพราะแทนที่การออกกำลังกายจะเกิดประโยชน์ อาจเกิดโทษก็เป็นได้


ที่มา
อ. กัญจนา ดีวิเศษ
กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
กระทรวงสาธารณสุข

No comments:

Post a Comment