" หูด " เกิดจากการติดเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง โดยเชื้อไวรัสจะเข้าไปอยู่ในชั้นหนังกำพร้า เกิดเป็น" เนื้องอก " บนผิวหนัง ผู้ที่เป็นหูดส่วนใหญ่มักจะได้รับเชื้อไวรัส มาจากการสัมผัสโดยตรง ผิวหนังที่ถลอก หรือถูกกดทับจนติดเชื้อหูดได้ง่าย การแกะเกาจะทำให้กระจายไปส่วนอื่น ๆ ของร่างกายได้ หูดด้านข้างนิ้วเท้าทำให้นิ้วที่อยู่ติดกัน เป็นหูดที่บริเวณผิวหนังที่ชิดกับหูดได้ เราสามารถพบหูดได้ในทุกวัย ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่
ลักษณะของหูด
หูดจะมีลักษณะเป็นเม็ดนูนแข็ง ผิวขรุขระ มีเม็ดเดียว หรือเป็นหลายเม็ดก็ได้ คนที่ภูมิคุ้มกันต่ำ อาจจะมีจำนวนเม็ดมาก ส่วนใหญ่เกิดที่มือหรือเท้า ถ้าเป็นที่ฝ่าเท้าจะคล้ายตาปลา เวลาเดินจะเกิดการกดทับตลอดเวลา และจะทำให้มีอาการเจ็บมาก หูดอาจหายได้เอง ถ้าปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษา ส่วนใหญ่จะใช้เวลาประมาณ 2 ปี แต่ถ้าเรามีภูมิคุ้มกันร่างการต่ำจะหายยาก และลุกลามได้ง่าย จึงควรรีบรักษา
วิธีการรักษา
การรักษาหูดมีหลายวิธี อาจใช้วิธีทายากัดหูด ที่มีส่วนผสมกรดซาลิไซลิก และกรดแลกติก แต้มบนเม็ดหูด วันละ 2 ครั้ง ประมาณ 4-6 สัปดาห์ ซึ่งต้องใช้เวลา และความตั้งใจในการแต้มยา แต่จะไม่เจ็บไม่ปวดไม่เสียเลือด หายแล้ว ไม่เกิดเป็นแผลเป็น หรืออาจใช้วิธีผ่าตัดเอาออก จี้ออกด้วยไฟฟ้า หรือจี้ด้วยความเย็นก็ได้
สิ่งทีมีคนเข้าใจผิด เพราะหลงเชื่อกันมาเรื่อย ๆ คือการใช้ธูปจี้ หรือการใช้ยากัดหูดแรง ๆ ดังนั้น ท่านจึงไม่ควรใช้ธูปจี้ หรือยากัดหูดแรง ๆ เพราะจะทำให้เป็นแผลเป็นทีหลัง
Search This Blog
Monday, October 26, 2009
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment