Search This Blog

Tuesday, November 17, 2009

Metabolic Syndrome รอบเอวอันตราย

เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำทำคนไทยอ้วนลงพุง เสี่ยงโรคร้ายในกลุ่มเมตาบอลิกซินโดรม เพชรฆาตเงียบ...สาเหตุการตายมากสุดในโลก

จากสถิติคนไทยตายด้วยโรคกลุ่มเมตาบอลิกซินโดรม หรืออ้วนลงพุง ได้แก่ โรคหัวใจ และหลอดเลือด รวมถึงหลอดเลือดสมอง และเบาหวาน รวมวันละ 236 คน หรือชั่วโมงละ 10 คน นั่นคือ!! 6 นาที ต่อ 1 คน ซึ่งมีผลสำรวจว่า กลุ่มคนอ้วนลงพุง หรือชายที่มีรอบเอวมากกว่า 90 ซม. และหญิงที่มีรอบเอวมากกว่า 80 ซม. มีความเสี่ยงสูงกว่ากลุ่มที่มีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ได้แก่ ความดันโลหิตสูง ระดับน้ำตาลในเลือดสูง ไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์สูง เอชดีแอลต่ำ และความเครียดสูง

เนื่องจากคนอ้วนลงพุงจะมีไขมันจำนวนมาก อยู่บริเวณรอบเอว และจะเป็นแหล่งสะสม พลังงานส่วนเกิน ซึ่งอันตรายที่แฝงมานั้น มีมากกว่าการสะสมพลังงาน เพราะไขมันเหล่านั้นจะผลิตฮอร์โมนออกมาเช่นเดียวกับต่อมผลิตฮอร์โมน โดยจะมีผลต่อการเกิดเมตาบอลิกซินโดรมมากขึ้น

สาเหตุสำคัญของการเกิดโรคกลุ่มนี้ จะมาพร้อมกับความเจริญ และเทคโนโลยี ที่นำไปสู่การบริโภคอาหารไม่ดี เนื่องจากคนในปัจจุบันมักจะนั่งทำงานอยู่กับที่ วันละหลายชั่วโมง อาศัยแต่สิ่งอำนวยความสะดวก โดยไม่ขยับร่างกาย และไม่ออกกำลังกาย ทั้งยังกินอาหารที่มีไขมันสูง ซึ่งไขมันเป็นตัวการสำคัญ ทำให้เกิดเมตาบอลิกซินโดรม หรืออ้วนลงพุง หากมีไขมันสะสมมาก จะเข้าไปในหลอดเลือดทั่วร่างกายจนเกิดการตีบตัน หากเกิดกับหัวใจจะทำให้หัวใจโต และเกิดหัวใจวาย (Heart Attack) จากสถิติพบว่าผู้ที่อ้วนลงพุงจะมีโอกาสเกิดโรคหัวใจ และหลอดเลือดสูงกว่าคนทั่วไป การปรับเปลี่ยนความคิด และการดำเนินชีวิต ทั้งการกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ไม่สูบบุหรี่ ไม่เครียด และออกกำลังกาย เพราะการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์สำคัญกว่าการให้ยาเสียอีก

จากการวิจัยพบว่า การลดน้ำหนักมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงโรคอ้วนลงพุง ดังนั้น ควรดูแลพุงให้ดีอย่าให้เกินมาตรฐาน เพราะการมีรอบเอวเกิน ก็เหมือนกับมีระเบิดเวลา ที่รอการระเบิดในอนาคต

หลักการกิน


โดยทั่วไปทุกคนจะทราบกันดีว่า กินให้พอดีกับพลังงานที่ใช้ออกมา แต่โดยส่วนใหญ่คนเรามักจะกินเกินกว่าที่ใช้ เพราะรอบตัวมีแต่สิ่งยั่วใจ แรงกระตุ้นจากโฆษณา วัฒนธรรมตะวันตก และการบริการที่สะดวกสบาย นอกจากนี้คนไทยจำนวนมากยังมีพฤติกรรมการกินที่ผิด ๆ เช่น งดอาหารเช้า ชอบของมัน ของทอด กินผักผลไม้น้อย นิยมอาหารที่สะดวกกินสะดวกซื้อ เป็นต้น

หลักโภชนาการใน การลดเสี่ยงอ้วนลงพุง คือ ลดคาร์โบไฮเดรต และไขมันที่ไม่ดี ซึ่งการลดที่ถูกต้อง และทำได้ง่าย เช่น ลดเครื่องดื่มหวาน น้ำอัดลม ขนมอบ ไอศครีม โดนัท เป็นต้น เน้นคาร์โบไฮเดรตที่ดี มาจากข้าว และแป้งไม่ขัดสี ผัก ผลไม้ และนมไขมันต่ำ โดยกินข้าวในปริมาณวันละ 6 ทัพพี

พร้อมกันนี้ต้องลดการกินเค็ม และลดไขมันไม่ดี เน้นกินไขมันดี เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันเมล็ดชา น้ำมันคาโนลา เป็นต้น และต้องเลือกให้เหมาะกับวิธีการปรุงอาหาร อ่านฉลากก่อนซื้อ โดยดูปริมาณกรดไขมันอิ่มตัว และไขมันทรานซ์ต่ำ กรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียวสูง (โอเมก้า 3, 6, 9) หากต้องการทอด เลือกชนิดที่จุดเดือดเป็นควันสูง เช่น น้ำมันเมล็ดชา น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันปาล์ม เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ต้องควบคุมปริมาณไขมัน โดยกินน้อยกว่า 6-8 ช้อนชาต่อวัน เพราะน้ำมันทุกชนิดให้พลังงานเท่ากัน นอกจากนี้ ต้องดูความสมดุลของกรดไขมันด้วย เนื่องจากน้ำมันพืชที่ใช้กันทั่วไปอย่าง ถั่วเหลือง ทานตะวัน หรือข้าวโพด จะมีโอเมก้า 6 มากเกินไป ทำให้เร่งการเกิดการอักเสบในร่างกาย และเกิดปัญหากับสุขภาพ จึงต้องรับประทานโอเมก้า 3 เพิ่มขึ้นเพื่อปรับสมดุล

โอเมก้า 3 จะได้จากปลาทะเลน้ำลึก วอลนัท น้ำมันคาโนล่า เมล็ดแฟล็กซิด เป็นต้น หรือใช้น้ำมันผสม เพื่อให้ได้สัดส่วนกรดไขมันดีขึ้น เช่น น้ำมันคาโนล่าผสมทานตะวัน เพื่อความสะดวกในการใช้

No comments:

Post a Comment