Search This Blog

Thursday, November 12, 2009

คันเรื้อรัง

ผู้ป่วยที่มีอาการคันของผิวหนัง พบว่า เป็นโรคทางกายภายใน ที่เป็นต้นเหตุทำให้เกิดอาการคันร่วมด้วย การรักษาจึงต้องหาต้นตอของโรคภายใน ไม่เช่นนั้น จะรักษาไม่หายขาด แถมยังทำให้โรคภายในทรุดลงเรื่อย ๆ

ผู้ป่วยคันเรื้อรัง ร้อยละ10 – 50 พบว่ามี " โรคทางกายภายใน " ที่เป็นสาเหตุของอาการคันร่วมด้วย จึงควรได้รับการตรวจทางห้องปฏิบัติการ และการรักษาที่เหมาะสม การตรวจที่อาจทำ คือ การตรวจนับเม็ดเลือด สำหรับผู้ป่วนรายที่สงสัยว่า คันจากโรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก อาการคันจากโรคมะเร็งเม็ดเลือด, ตรวจค่าครีอาตินีน และ BUN ในผู้ป่วยที่สงสัยว่าเป็นโรคไต, การตรวจหาเอ็นซัยม์ตับ, ตรวจหาระดับฮอร์โมนของต่อมไทรอยด์, ตรวจหาระดับน้ำตาล เพื่อหาว่าเป็นเบาหวานร่วมด้วยหรือไม่ ตรวจอุจจาระ ถ้าพบเลือดอาจเป็นมะเร็งระบบทางเดินอาหาร พบไข่พยาธิอาจคันจากการติดเชื้อพยาธิ, การตรวจหา HIV antibody ถ้ามีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นเอดส์ การขูดผิวหนังเพื่อหาเชื้อรา หรือหิด และการตัดชิ้นเนื้อ เพื่อส่งตรวจทางพยาธิวิทยา

ดังนั้น การรักษาอาการคันจากโรคภายใน จึงขึ้นกับสาเหตุ หากไม่รักษาสาเหตุต้นตอของโรคภายใน อาการคันก็ไม่หายขาด และโรคภายในก็จะทรุดลงเรื่อย ๆ ในผู้ป่วยที่คันจากโรคไตแพทย์อาจพิจารณาฉายแสงยูวีบี, ให้ยาทาลดอาการคันเฉพาะที่, ยากิน, การล้างไตช่วยลดอาการคันลงได้, ในรายที่คันจากโรคตับ มียาเฉพาะเช่น cholestyramine, อาการคันจากโรคเลือดจากการขาดเหล็ก แก้ไขด้วยการเสริมธาตุเหล็ก แพทย์อาจให้ยา aspirin ในผู้ป่วยโรคเลือดข้นผิดปกติ ที่มีอาการคัน, อาการคันจากต่อมไทรอยด์ ทำงานน้อยเป็นผลจากผิวแห้ง รักษาด้วยครีมให้ความชุ่มชื้น และเสริมฮอร์โมนของต่อมไทรอยด์

พบบ่อยว่าผู้ที่คันเรื้อรัง อาจหาซื้อยามากินเอง เช่น ยาชุด ยาสมุนไพร ยาหม้อ ยาแผนโบราณ ยาลูกกลอน ยาพระ โดยผู้ที่ใช้ส่วนใหญ่เข้าใจว่าปลอดภัย แท้จริงแล้วอาจมีอันตรายได้เช่นกัน พบว่า ยาชุด, ยาสมุนไพรหลายขนาน มีการเจือปนสารอันตราย เช่น สเตียรอยด์ และสารหนูลงไป สเตียรอยด์ขนาดสูงทำให้หน้าบวมเป็นดวงจันทร์ คอมีหนอก ผิวแตกลาย ผิวฝ่อ เลือดออกในกระเพาะอาหาร กระดูกผุ ติดเชื้อง่ายขึ้น น้ำตาลในเลือดสูง ทำให้ผู้ป่วยเบาหวานมีอาการทรุดลง การใช้สเตียรอยด์อาจทำให้อาการดีขึ้นช่วงแรก แต่เมื่อไม่ได้รักษาตรงจุด ในที่สุดโรคจึงทรุดลง และยังมีข้อแทรกซ้อนจากยาอีกมาก

ผู้ป่วยที่คันเรื้อรังจึงควรรับการตรวจอย่างละเอียด เพื่อการวินิฉัย และหาสาเหตุร่วมจากโรคภายในอย่างตรงจุด ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางตามความเหมาะสม เช่น ปรึกษาแพทย์โรคผิวหนัง อายุรแพทย์ แพทย์โรคทางเดินอาหาร แพทย์โรคเลือด และโรคมะเร็ง แพทย์โรคต่อมไร้ท่อ จิตแพทย์ และศัลยแพทย์ และแม้จะตรวจไม่พบสาเหตุใด ๆ ก็อาจต้องรับการตรวจซ้ำทุก ๆ 3-6 เดือน

ที่มา
วารสาร คลินิก

No comments:

Post a Comment