Search This Blog

Wednesday, November 11, 2009

กลิ่นปาก

ปัญหาสุขภาพช่องปากที่สำคัญอย่าง ‘กลิ่นปาก’ ที่หอบเอาลมหายใจเหม็น ๆ ออกมาจากช่องปาก ทุกยามที่คุณปริปากนั้น คงเป็นเรื่องที่สร้างความกังวลใจไม่ใช่น้อย เพราะ ทำให้ใครหลายคนพยายามสงวนคำพูด ลดโอกาสการสนทนา ด้วยเหตุผลที่ว่า ไม่อยากให้คู่สนทนาได้กลิ่น อันไม่พึงประสงค์ แถมยังบั่นทอนบุคลิกภาพที่ดีลงไป

ทว่าคุณจะเห็นเรื่องกลิ่นปากเป็นเรื่องเล็ก เพราะยามที่เริ่มส่งกลิ่นเหม็นเมื่อไหร่ ก็หยิบลูกอม หมากฝรั่ง ยัดใส่ปาก หรือไม่ก็ขอเวลานอกไปกลั้วปากบ้วนน้ำ แปรงฟัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูก โดยวิธีดังกล่าว เป็นการขจัดปัญหากลิ่นปาก ที่อาจเกิดจากการรับประทานอาหารบางชนิด แต่ถ้าสาเหตุของกลิ่นนั้นมาจากปัญหาอื่น ไม่นานกลิ่นปากก็จะเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เข้าตำราเรื้อรัง

ปัจจัยที่ทำให้เกิดกลิ่นปาก


ประมาณร้อยละ 80-90 ของผู้ที่มีปัญหากลิ่นปากเรื้อรัง มักมีสาเหตุมาจากปัญหาภายในช่องปาก ที่มีทั้งลิ้นเป็นฝ้า ร่องเหงือกอักเสบ โรคปริทันต์ หรืออวัยวะรอบฟันอักเสบ แผลในช่องปาก ฟันผุ ฟันคุด ฟันซ้อนเก ฟันปลอม หรือวัสดุอื่น ๆ ที่ใส่เพื่อจัดแต่งฟันไม่สะอาด มีเศษอาหารติดค้าง

ส่วนปัจจัยภายนอก ที่ทำให้เกิดกลิ่นปาก คือ อาหาร แม้จะไม่ใช่ตัวการก่อกลิ่นที่เรื้อรัง คุณก็ควรรู้ไว้ว่า การรับประทานอาหารจำพวกโปรตีนสูง ๆ อย่างเช่น กระเทียม เครื่องเทศ หัวหอม รวมทั้งเครื่องดื่ม ประเภทแอลกอฮอล์ จะนำพากลิ่นตุ ๆ ให้เกิดขึ้นในปาก รวมทั้งการสูบบุหรี่ด้วย

นอกจากสองปัจจัยที่กล่าวไปแล้ว " กลิ่นปาก " อาจเกิดขึ้น เพราะร่างกายส่งสัญญาณบอกความเจ็บป่วย มาจากอวัยวะภายใน เช่น ป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ อาทิ การอักเสบ หรือมะเร็งในโพรงจมูก ไซนัส ทอนซิล คอหอย กล่องเสียง หรือปอด โรคของระบบทางเดินอาหาร ได้แก่ การอักเสบของหลอดอาหาร โรคกระเพาะ โรคลำไส้

ทั้งนี้ยังมีการวิจัย พบว่า โรคกรดไหลย้อน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเยื่อบุผิวทางเดินหายใจ มีผลให้น้ำมูกข้นเหนียวกว่าปกติ และจะไหลลงลำคอด้านหลังจมูก (Post Nasal Drip) ซึ่งเป็นอาการเดียวกับผู้ที่ทางเดินหายใจอักเสบเรื้อรัง

ยังมีการป่วยด้วยโรคตับ โรคไต และโรคเบาหวาน ที่ทำให้เกิดกลิ่นปากได้อีกด้วย โดยสามโรคตอนท้ายนี้จะมีกลิ่นเฉพาะของแต่ละโรค


ที่มา
ศูนย์ทันตกรรม Dentalis
โรงพยาบาลเวชธานี

No comments:

Post a Comment