ปัญหาเรื่องพิษจากสารปรอท ไม่ใช่เรื่องใหม่ เหตุการณ์ครั้งรุนแรงเนื่องจากพิษของสารปรอท เกิดในประเทศญี่ปุ่น บริเวณอ่าวมินามาตะ อันเป็นต้นตอของชื่อโรค ที่เกิดจากสารปรอทเป็นพิษที่ชื่อ Minamata disease อาการพิษจากการรับสารปรอทมากเกินไป สามารถแบ่งออกได้เป็นแบบ เฉียบพลัน กับแบบเรื้อรัง
อาการพิษ แบบเฉียบพลัีน อาจมีอาการดังนี้ คือ
- กระหายน้ำ
- การรับรสเปลี่ยนไป
- ปัสสาวะน้อยลง
- น้ำลายออกมากกว่าปกติ
- แผลในปาก
- ความดันโลหิตต่ำ
- บวมภายในลำคอ และทำให้เกิดภาวะหายใจลำบาก
- ปวดท้องอย่างรุนแรง
- อาเจียน
- ถ่ายเหลวมีเลือดปน
- นอนไม่หลับ กระวนกระวาย
อาการพิษ แบบเรื้อรัง คือ ค่อย ๆได้รับสารปรอท และสะสมในร่างกาย มีอาการดังนี้
- ปากเป็นแผล อักเสบเรื้อรัง
- มีเส้นสีน้ำเงินที่ขอบเหงือก
- เหงือกบวมและเลือดออกง่าย
- ฟันโยก
- มือสั่น
- น้ำลายออกมาก การรับรสเปลี่ยนไป
อาการพิษจากสารปรอท
อาการทำให้เกิดปัญหาที่รุนแรง ในหญิงตั้งครรภ์ และในเด็กเล็ก ที่บริโภคอาหารปนเปื้อนสารปรอทเข้าไป โดยพบว่า สารปรอท จะไปทำลายระบบประสาทของเด็ก ทำให้กลายเป็นเด็กปัญญาอ่อน ความสามารถในการเรียนรู้ลดลง เกิดอาการชัก ตาบอด หูหนวก ได้ ซึ่งพยาธิสภาพเหล่านี้ เมื่อเกิดขึ้นแล้ว จะเป็นแบบถาวร ไม่สามารถรักษาให้กลับมาดีได้เหมือนเดิม
ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุด คือ ป้องกันการได้รับสารปรอทเข้าสู่ร่างกาย โดยหลีกเลี่ยงการบริโภคปลาทะเลตัวใหญ่ ๆ ปริมาณมาก ๆ เป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหญิงตั้งครรภ์ และในเด็ก แต่ทั้งนี้ มิได้จะแนะนำให้งดอาหารทะเล หรือปลาไปเลย เนื่องจาก ในปลายังมีสารอาหารอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์กับร่างกายมาก เพียงแต่ไม่บริโภคมากจนเกินไปเท่านั้น นอกจากนี้ อาจำเป็นต้องเปลี่ยนเครื่องมือวัดไข้จากปรอท เป็นแบบอื่น ๆ เช่น อุปกรณ์วัดไข้ระบบดิจิตอล หรือเครื่องวัดอุณหภูมิของร่างกายทางช่องหู ซึ่งเริ่มมีจำหน่ายในประเทศไทย บ้างแล้ว
ในสหรัฐอเมริกา ได้มีการรณรงค์เพื่อการไม่ใช้ปรอทในการวัดไข้ ในหลายเมืองมีการออกกฎหมาย ห้ามการจำหน่ายอุปกรณ์ที่มีสารปรอท เนื่องจากพบว่า ในปรอทที่ใช้วัดไข้ 1 อัน จะมีสารปรอทอยู่ประมาณ 1 กรัม ซึ่งปริมาณสารปรอท 1 กรัมนี้ ถ้าปนเปื้อนลงในแหล่งน้ำ ที่มีขนาดประมาณ 20 เอเคอร์ จะทำให้ปลาที่อาศัยอยู่ในนั้น มีสารปรอทมากกว่าปกติอยู่นานถึง 1 ปี
ถ้าปรอทที่ใช้วัดไข้แตก ปรอทที่ไหลออกมา สามารถระเหิดเป็นไอ และทำให้เกิดอันตรายกับระบบทางเดินหายใจ ทำให้เกิดอาการหายใจไม่อิ่ม แน่นหรือแสบหน้าอก และปอดอักเสบได้ มีข้อปฏิบัติที่ควรทำ ดังนี้
- ให้รีบออกจากห้องนั้นโดยเร็วที่สุด
- เปิดหน้าต่าง ให้บริเวณนั้นถ่ายเทได้สะดวกอย่างน้อย 2 วัน
- ห้ามใช้ไม้กวาด กวาดสารปรอทที่ไหลออกมา เนื่องจากจะทำให้ปรอดแตกออกเป็นเม็ดเล็ก และติดอยู่กับไม้กวาด อันนำไปสู่การกระจายไปที่อื่น ๆ ทั่วบ้านของท่าน
- ห้ามใช้เครื่องดูดฝุ่น ดูดสารปรอท เนื่องจากจะมีสารปรอทตกค้างในเครื่องดูดฝุ่น และความร้อนที่เกิดขึ้น จะทำให้ปรอทระเหิดเข้าสู่ทางเดินหายใจ
- วิธีกำจัดที่ดี คือ สวมผ้าปิดปากปิดจมูก และใช้กระดาษแข็งกวาดสารปรอทมารวมกัน และตักใส่ภาชนะ หรือกระป๋อง ที่มีฝาปิดมิดชิด และนำไปทิ้งในขยะที่เป็นถังขยะอันตราย
- หาก ปรอทแตก และมีสารปรอทเข้าไปทางปาก ให้รีบบ้วนออก รีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล อาจจำเป็นต้องล้างท้อง หรือรับประทานยา ที่ทำให้เกิดอาเจียน และอาจให้ยา เพื่อช่วยเร่งให้เกิดการขับสารปรอทออกทางปัสสาวะ
ทั้งหมดนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับสารปรอท สารพิษใกล้ตัวคุณที่จำเป็นต้องระวัง การบริโภคอาหารทะเลแต่พอเหมาะ การหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องมือที่มีปรอท หรือใช้ด้วยความระมัดระวัง จะทำให้ท่านปลอดภัยจากการเกิดพิษจากสารปรอทได้
No comments:
Post a Comment