ใครที่เข้าข่ายเป็น "ออฟฟิสซินโดรม" ไม่ต้องตกใจ เพราะมั่นใจได้ว่า เกินครึ่งคนทำงานออฟฟิศเป็นโรคนี้แทบทุกคน เพียงแต่จะแสดงอาการถึงขั้นไหน อย่างที่ทราบว่า ไม่ตายในทันที แต่แสนทรมาน เพราะฉะนั้น เราควรรู้วิธีบำบัดและบรรเทา เพื่อให้รางวัลกับร่างกายตัวเองจากการทำงานหนักบ้าง
อาการแรกที่หลายคนเป็น คือ ปวดร้าวตั้งแต่คอไปจนถึงเอว หรือผู้หญิงบางคนที่ใส่รองเท้าส้นสูงเป็นประจำ หิ้วกระเป๋า หรือโน้ตบุ๊คหนักเกินไป จะมีอาการปวดขา และไหล่ร่วมด้วย แพทย์อายุรเวทบอกเคล็ดลับให้นำไปปฏิบัติคือ
- ยืดกล้ามเนื้อประมาณ 10 นาที เมื่อใช้คอมพิวเตอร์ติดต่อกัน 2 ชั่วโมง
- วางแขนแนบโต๊ะทำงานตั้งแต่ศอกไปจนถึงข้อมือ เวลาใช้คีย์บอร์ด
- ใช้หมอนรองบริเวณหลังเวลานั่งเก้าอี้สำนักงาน เพื่อป้องกันการปวดหลัง
- เมื่ออาการปวดเมื่อยเริ่มสำแดง งดออกกำลังกายที่หนักเกินไป แต่ควรใช้วิธีบริหาร หรือคลายกล้ามเนื้อแทน เช่น การว่ายน้ำ หรือเล่นโยคะ
อาการ "ตาแห้ง" สายตาพล่ามัว ปวดกล้ามเนื้อตา ใต้ตาคล้ำ อาการยอดฮิตอีกอย่าง แนะนำให้เมื่อกลับมาจากทำงาน นำแตงกวาหรือถุงชามาแปะไว้บนเปลือกตา หลับตาพักประมาณ 15 นาที หากใครรักสวยรักงามขึ้นมาอีกนิด แนะนำให้ฝานมันฝรั่งสดแปะใต้ดวงตาเป็นประจำจะช่วยลดอาการบวมและดำได้ชะงัด และที่สำคัญ อย่าลืมรับประทานผัก ที่มีวิตามินเอควบคู่ไปด้วย ใครที่ยังเข้าใจผิดคิดว่าผักบุ้งมีวิตามินเอมากที่สุด รู้ข้อมูลใหม่โดยกองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขจัด 5 อันดับที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ นำลิ่วมาก่อนใคร คือ
(1) ตำลึง(2) ผักหวาน(3) แครอท(4) ฟักทอง และ(5) มะเขือเทศ
ส่วนใครที่มีอาการขั้นรุนแรง เกินกว่าปวดเมื่อยเล็ก ๆ น้อย ๆ คงต้องรีบปรึกษาแพทย์ อย่ารีรอให้โรคลุกลามไปสู่อาการหนัก แต่สำคัญที่สุด คือ การป้องกันก่อนเกิด เพราะนอกจากเสียสุขภาพใจแล้ว ยังต้องมาเสียสุขภาพจิตตอนจ่ายเงินค่ารักษาอีกด้วย
No comments:
Post a Comment