กระแสทีวีรายการหนึ่งทำให้ผู้คนหันมาตื่นตัวกันเรื่องเมา ๆ มากขึ้น แต่ไม่ได้ตื่นตัวในเรื่องเลิก แต่เป็นเมาอย่างไรไม่ให้จับได้มากกว่า เมื่อดูอาหารชนิดที่ว่ากันว่า กินแล้วทำให้ตำรวจตรวจแอลกอฮอล์ไม่พบนั้น ดูไปก็เหมือนกับการเอาพลาสติกใส ไปเคลือบปากลิ้นไว้ ไม่ให้แอลกอฮอล์ที่มันตกค้างอยู่ในกาย ระเหยออกมาข้างนอกมากกว่า โดยรวมความก็คือ ยังเมาแประอยู่นั่นเอง ก็ไม่รู้ว่าเป็นนวัตกรรมที่น่ากลัวขึ้นหรือเปล่า
แต่ถ้าไม่อยากเมา แต่จำเป็นต้องไปงานสังคม หรือเผลอใจไปเมาโดยไม่ตั้งใจแล้ว ต้องมานั่งทนทุกข์ทรมาน กับ "อาการแฮงค์โอเวอร์" หรือที่เรียกง่าย ๆ ว่า “เมาค้าง” ก็มีวิธีที่จะช่วยดับได้ไม่ยากนัก แถมเป็นมรรควิธีที่เสริมสุขภาพดีแบบยั่งยืนด้วย เพราะบางทีแค่การจิบเครื่องดื่มแก้เมาค้าง อาจไม่ได้ช่วยไล่อาการได้เสมอไปครับ
ใช้ชีวิตอย่างไรไม่ให้เมาค้าง
สิ่งที่เป็นอมตธรรม สำหรับเรื่องเมา ก็คือ ถ้าไม่อยากเมาค้างก็จงอย่าดื่มเหล้า ฟังดูง่ายแต่ไม่ใช่อย่างนั้นเสมอไป เพราะในชีวิตที่ต้องว่ายวนอยู่ในสังคม เราก็คงต้องไปงานชุมนุมศิษย์เก่า งานแต่ง งานเลี้ยงรับปริญญา และงานสมาคมอะไรต่อมิอะไรมากมายสุด แล้วแต่จะจินตนาการขึ้นมาได้
การเลี่ยงดื่มในงานเหล่านี้ ถ้าใครทำได้ ก็ดุจจะมีคุณอันวิเศษในตัวทีเดียว ดังนั้นจึงอยากให้เคล็ดสำหรับเตรียมตัวไว้ สำหรับท่านที่ไม่อยากดื่ม แต่คิดว่าอาจเลี่ยงไม่ได้ ดังนี้คือ
- นอนพักให้พอ และอย่าออกกำลังหนักก่อนเข้างาน จะทำให้ไม่กระหายแอลกอฮอล์มากนัก
- กินโปรตีนสักนิดรองท้องไว้ เช่น แซนวิชทูน่า หรือแม้แต่ปลาเส้นสักกำมือหนึ่ง จะช่วยไม่ให้แอลกอฮอล์ดูดซึมเร็วนัก
- ระหว่างดื่มให้กินกับไปด้วย จะทำให้ไม่เปลืองเหล้า แต่อาจเปลืองกับแทน
- ดื่มน้ำให้เยอะ ๆ แล้วปัสสาวะบ่อย ๆ ตรงไปตรงมา เพราะว่าแอลกอฮอล์จะได้ถูกขับออกมาโดยเร็ว
สี่ข้อนี้จะช่วยให้ท่านป้องกันตัวเอง และตับไว้ไม่ให้ต้องทำงานโอทีโดยไม่จำเป็น เพราะงานเลี้ยงถือเป็นการพักผ่อนอย่างหนึ่งของร่างกาย คงจะไม่ค่อยดีนัก ถ้าเราได้พักแล้วยังปล่อยให้ตับต้องทำงานหนักอยู่อย่างโดดเดี่ยว
เมนูลับดับเมาค้าง
นับแต่เริ่มมีเมรัยมา อาการเมาค้าง ถือเป็นสิ่งที่คู่กัน แม้คนที่ถือว่าคอเหล็กคอแป๊บที่สุด ก็ยังต้องเคยมีประสบการณ์เมาค้างให้รำคาญใจ โดยเฉพาะในวันจันทร์ที่เริ่มทำงานนั้น เป็นเรื่องไม่สนุกเลย ที่จะต้องเดินเพลียเข้าที่ทำงาน จึงอยากนำเมนูแก้เมาค้างง่าย ๆ และเติมสุขภาพให้ตัวท่านได้มาฝากไว้ ดังนี้ครับ
ไข่ตุ๋นและซุปไก่ในไข่ตุ๋นกับซุปไก่นั้น จะมีกรดอะมิโน ชื่อ “ซิสเทอีน" (Cysteine) อยู่ช่วยลดระคายคอ และพบว่าช่วยบรรเทาอาการเมาค้างได้ด้วย ขอให้กินร้อน ๆ ด้วยได้ก็จะยิ่งดี
น้ำส้ม มะนาว กระเจี๊ยบ เกรปฟรุตส่วนน้ำผลไม้รสเปรี้ยวจับใจนั้น ใช้ได้ดีมากทีเดียว เพราะวิตามินซี มีผลในการช่วยลดเมาค้างได้ดีมาก ถ้าหาน้ำผลไม้ไม่ได้จริง ๆ อาจไปหลังครัวหยิบมะขามเปียกมาสักสิบฝัก ต้มน้ำเติมน้ำตาลสักนิดก็ดีไม่น้อย ดังนั้น ข้างโถยาดองที่ท่านวางจานมะขามเปียกกับมะยมไว้ให้จิ้มเกลือเม็ด ให้น้ำลายพุ่งออกจากกระพุ้งแก้มเล่นนั้น มันช่วยตัดเหล้าได้จริงทีเดียว
ชารางจืดรางจืด นั้นเป็นว่านหน้าตาคล้ายใบพลูที่เลี้อยเกาะระแนงไม้ เอาใบรางจืดมาตากแดดไว้แล้วชงดื่มสักหน่อย รับรองว่าเมาค้างจะหายเป็นปลิดทิ้ง
กล้วยหอมน้ำผึ้งเชคอย่างกล้วยหอมน้ำผึ้งปั่นนั้นช่วยได้มาก ตรงที่กล้วยหอมมีธาตุร่าเริงอยู่ในเนื้อมัน กินไปมาก ๆ จะช่วยให้สมองสดชื่นมีพลัง และคนที่ความดันสูงก็จะลดลงได้ด้วย ฤทธิ์ธาตุโพแทสเซียมที่มีอยู่ด้วย พอผนวกเข้าไปกับน้ำผึ้ง ซึ่งมีน้ำตาลฟรุกโตสแล้ว ก็ยิ่งช่วยให้กะปรี้กะเปร่ามากขึ้นแต่มีข้อแม้ว่าตอนทำเช้คต้องใส่น้ำให้เยอะสักหน่อยครับ อย่าให้หวานจัดเกินไป ประเดี๋ยวหายเมา แต่พาลง่วงนอนหลับต่อเจ้านายไม่ปลื้มอีก
สูตรที่ดีสุดจริง ๆ คือ “อดใจ” เสียไม่ให้ความอยากเหล้าเข้ามาครองได้ ไม่ว่าจะเข้าหรือออกพรรษาก็ตามที เพราะเหล้านั้นเป็นของ ที่ผลิตมาไว้ให้มันกินเราโดยแท้ทีเดียวครับ แม้ว่าเราอาจถูกมันล้างสมองไปบ้างแล้ว แต่อยากขอให้ “ล้างสมอง” ใหม่อีกทีท่องไว้ว่าไม่มีใครในโลกบังคับจับกรอกปาก ให้เรากินได้ถ้าไม่ใช่ “ความอ่อน” ของตัวเราเอง
ที่มา
นพ.กฤษดา ศิรามพุช พบ. (จุฬาฯ) ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ
No comments:
Post a Comment