Search This Blog

Tuesday, September 8, 2009

ฝนตก...เป็นหวัด? ไอ - จามที่ถูกต้องแบบอเมริกัน

ทำไม...ฝนตกแล้ว...เป็นหวัด ไอจามถูกต้องแบบคนมะกัน

ต้องบอกว่า ตอนนี้ใครๆ ก็กลัวการเป็น "หวัด" ยิ่งฝนหยุด ๆ ตก ๆ แถมข่าวคราวไข้หวัดใหญ่ 2009 ยังกระหน่ำไม่หยุด ยิ่งไปกันใหญ่ ฟุด ฟิด ฮัดเช้ย ปุ๊บ เป็นเรื่องทันที ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำคือ ป้องกันอย่างสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะฝนไม่ว่าจะโดนแบบชุดเล็ก หรือชุดใหญ่ก็ตาม

ฝนคือ ตัวปัญหาทำให้เป็นหวัดหรือ ?
คำถามงง ๆ ที่หลายคนยังสงสัย
ที่นี่มีเฉลย...

มาดูก่อนว่า "หวัด" คือ อะไร ?

"หวัด" ก็คือ โพรงจมูกอักเสบจากการติดเชื้อ ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดหวัด ก็คือ ไวรัสที่มีมากมายเป็นร้อย ๆ ชนิด ฟุ้งกระจายอยู่ในอากาศ หรือเกาะอยู่ตามที่ต่าง ๆ รวมถึงมีบางส่วนที่อยู่ในร่างกายของเรา แต่ที่มันไม่โจมตีเรา หรือทำร้ายเราไม่ได้ ก็เป็นเพราะเรายังมีภูมิต้านทานที่แข็งแรงอยู่

ส่วนทำไมฝนตกแล้วเป็นหวัดนั้น หวัดไม่ได้เกิดจากฝน แต่เกิดจากการที่ศีรษะเปียกฝน หรือมือเท้าเปียก จะทำให้อุณภูมิในร่างกายเราลดลง โดยเฉพาะที่โพรงจมูกที่จะลดลง 1 - 2 องศาเซลเซียส อุณหภูมินี้แหละ ที่เหมาะกับการทำงานของไวรัส ยิ่งได้ไวรัสที่ฟุ้ง กระจายในอากาศ หรือที่ติดอยู่ตามที่ต่าง ๆ มาเป็นทัพหนุนด้วยอีก ร่างกายก็จะยิ่งถูกโจมตีหนักเข้าไปอีกทั้งศึกนอกศึกใน

ถ้าไวรัสอยู่ในเยื่อบุจมูก จมูกก็จะผลิตน้ำมูกเพื่อขึ้นมาปิดกั้นเชื้อโรค ก็จะทำให้เกิดอาการคัดจมูก แต่ถ้าเชื้อนี้บุกไปได้ถึงลำคอ ก็จะทำให้เกิดการไอ เจ็บคอ คออักเสบได้

ดังนั้น ถ้าเห็นฝนเริ่มโปรยเม็ดลงมา ก็ตรงหาที่หลบเลี่ยงเสียก่อน หรือไม่หาสิ่งป้องกันไม่ทำให้หัวเปียก หรือถ้าเปียกก็ต้องรีบเช็ดให้แห้งหรือเป่าให้แห้ง แต่ถ้าเปียกฝนจนหนาวสั่น ก็ต้องรีบทำให้ร่างกายอบอุ่นโดยไว จะอาบน้ำอุ่น หุ่มผ้า แช่เท้าในน้ำอุ่นก็ได้ เป็นการดักทางไม่ให้ไวรัสแพร่เชื้อได้ ขณะเดียวกันก็ต้องรีบเสริมวิตามินซีโดยด่วน เป็นการเพิ่มปราการป้องกันหวัด อีกชั้นหนึ่ง

สำหรับคนที่เพลี่ยงพล้ำไปแล้ว หากเกิดอาการไอหรือจาม ก็ควรต้องดูแลให้ถูกต้อง เพราะการไอหรือจามนี่แหละ มีความเร็วอยู่ที่ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แถมยังกระจายรอบทิศทางอีกด้วย ดังนั้นปิดปาก ปิดจมูกเสีย แต่การปิดปาก ปิดจมูกนี้ไม่ควรจะใช้มือปิด เพราะมือนี่แหละจะเป็นตัวแพร่เชื้อไปได้อีกทันทีที่ใช้มือไปจับต้องสิ่งต่าง ๆ ที่อเมริกาเขาใช้วิธีสอนวิธีการจามอย่างถูกหลักมาตั้งแต่เด็กๆ เขาสอนอย่างนี้ " จามใส่ข้อพับ ข้อศอก แทนโดยการยกแขนข้างใดข้างหนึ่งมาจับไหล่ของตัวเองฝั่งตรงกันข้ามและให้ยกมุม ข้อศอกปิดปากปิดจมูกของตัวเองแล้วค่อยจาม "

นี่แหละคือวิธีจามที่ดีที่สุด ลดการแพร่เชื้อได้อย่างชะงัด

แต่จะชะงัดไปอีก ก็อย่าลืมใส่หน้ากากอนามัย และหมั่นล้างมืออยู่เป็นนิจ และกินของร้าน ใช้ช้อนกลางด้วย เป็นการช่วยตัดเส้นสายทำให้ไวรัสเติบโตได้ระดับหนึ่ง

No comments:

Post a Comment