การเดินดีอย่างไร
หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า วิธีออกกำลังกายง่าย ๆ อย่างการเดิน มีประโยชน์ต่อสุขภาพมาก มาย ไม่ว่าจะเป็นการเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะบริเวณขา ช่วยให้ระบบการทำงานของหัวใจดีขึ้น สามารถเผาผลาญพลังงานได้ดี โดยการเดินระยะทาง 1.6 กิโลเมตร สามารถเผาผลาญไขมันส่วนเกินได้ถึง 100 แคลอรี ทำให้ควบคุมน้ำหนักตัวได้ และมีรูปร่างสวยงาม นอกจากนี้ยังจะได้รู้จักเพื่อนใหม่ที่รักสุขภาพ และช่วยผ่อนคลายความเครียด ทำให้เรารู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และมีความกระฉับกระเฉงอยู่ตลอดเวลา
การเริ่มออกกำลังกายด้วยการเดิน
สำหรับใครที่กำลังจะเริ่มออกกำลังกายด้วยการเดิน แต่ไม่รู้ว่าควรเริ่มอย่างไร เพื่อให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพน้อยที่สุด เพราะไม่เคยออกกำลังกายมาก่อน ลองปฏิบัติตาม 9 ขั้นตอนดี ๆ ที่เรานำมาฝาก ดังนี้
1.วางแผนในการออกกำลังกาย
หากคุณไม่ได้ออกกำลังกายเป็นเวลานานแล้ว อยากเริ่มต้นออกกำลังกายด้วยการเดิน คุณควรเริ่มจากการเดินในระยะทางสั้น ๆ ก่อน ไม่ควรเริ่มจากการเดินในระยะทางไกล เพราะอาจทำให้ท้อ และเจ็บป่วยได้ เนื่องจากร่างกายอาจจะปรับสภาพไม่ทัน
2.หาสถานที่เดินออกกำลังกาย
แม้ว่า เราสามารถเดินออกกำลังกายได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน หรือถนนในหมู่บ้าน แต่นั่นอาจทำให้เรารู้สึกเหงา ที่ต้องเดินคนเดียว จนเลิกออกกำลังกายในที่สุด ดังนั้น การเปลี่ยนไปเดินในสถานที่อื่น ๆ บ้าง จะช่วยกระตุ้นให้เราอยากออกกำลังกายมากขึ้น สถานที่สำหรับเดินออกกำลังกายที่น่าสนใจ เช่น โรงเรียน หรือสวนสาธารณะใกล้บ้าน เพราะสถานที่เหล่านี้ จะมีผู้คนไปออกกำลังกายมากมาย ทำให้เราไม่เหงา
3. เริ่มต้นเดิน
หลังจากคุณพร้อมออกกำลังกายแล้ว ก็ถึงเวลาเริ่มต้นเดิน โดยตอนแรกอาจไม่จำเป็นต้องตั้งเป้าหมายอะไรมากนัก อาจเดินเพื่อความสนุก โดยเดินระยะทางใกล้ ๆ ก่อน ถ้ารู้สึกเหนื่อยควรหยุดพัก แล้วค่อยกลับมาเดินใหม่
4. อย่าจริงจังกับระยะทาง
ตอนแรกที่เริ่มออกกำลังกาย คุณไม่ควรจริงจังเรื่องระยะทาง หรือเวลาในการเดินมากนัก เพราะสิ่งเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้เอง หลังจากคุณเดินออกกำลังกายได้ระยะ เวลาหนึ่ง
5. กำหนดเวลาในการเดิน
การกำหนดเวลาในการเดิน เป็นอีกวิธีหนึ่ง ที่จะช่วยให้คุณออกกำลังกายได้ตามแผน และ ไม่หักโหมมากเกินไป โดยสัปดาห์แรก คุณอาจเริ่มเดินจาก 2-5 นาที แล้วค่อย ๆ เพิ่มเวลาในการเดินครั้งต่อไป
6. เพิ่มเวลาในการเดิน
ในการเดินแต่ละครั้ง คุณควรเพิ่มระยะเวลาในการเดิน โดยอาจค่อย ๆ เพิ่มครั้งละ 30 วินาที-1 นาที จนกระทั่งคุณสามารถเดินออกกำลังกายได้ อย่างน้อยครั้งละ 10 นาที หลังจากนั้นอาจเพิ่มสัปดาห์ละ 5 นาที จนครบตามเป้าหมายที่กำหนด
7. เพิ่มความเร็วในการเดิน
หลังจากคุณสามารถเดินออกกำลังกายได้ วันละ 45 นาทีแล้ว คราวนี้ถึงเวลาที่คุณจะเพิ่มความเร็วในการเดิน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของหัวใจด้วย
8. กำหนดเป้าหมาย และอัตราการเต้นของหัวใจ
เมื่อเดินออกกำลังกายจนคล่องแล้ว คุณอาจกำหนดเป้าหมายในการเดิน เช่น กำหนดเวลาและระยะทางในการเดิน หรือกำหนดอัตราการเต้นของหัวใจต่อนาที แล้วปฏิบัติตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
9. ฝึกเดินช้า-เร็วสลับกัน
หลังจากคุณเดินออกกำลังกายจนชำนาญ คุณควรฝึกเดินหลากหลายแบบในแต่ละครั้ง เช่น ตอนแรกควรเริ่มต้นเดินช้า ๆ ก่อน จากนั้นค่อยเพิ่มความเร็วในการเดิน และค่อย ๆ ลดความเร็วลง ก่อนจะหยุดพัก
การเดินออกกำลังกายไม่ใช่เรื่องยาก เพียงคุณพร้อม และตั้งใจก็ทำได้แล้ว
No comments:
Post a Comment