Search This Blog

Friday, December 4, 2009

วิธีกำจัดสิวอย่างถูกวิธี

ถ้าหากมัวแต่แก้ไขเฉพาะสิว ที่เห็นภายนอก โดยไม่สนใจรักษาที่ต้นเหตุ ซึ่งอยู่ใต้ผิวหนัง การรักษาใด ๆ ก็ไม่ได้ผล เช่น การใช้ผลิตภัณฑ์ทำให้หัวสิวแห้งเพียงอย่างเดียว ซึ่งนอกจากสิวจะไม่ยุบ และไม่สามารถดูดซับความมันบนหัวสิวแล้ว ยังระคายผิว และอาจก่อให้เกิดแผลเป็นอีกด้วย

ทำไมหัวขาว? ทำไมหัวดำ?

น้ำมันส่วนเกิน และเซลล์ผิวเก่า ที่มีมากผิดปกติ จะรวมตัวกันเป็นสารสีขาวนิ่ม ๆ อุดรูขุมขนไว้ ถ้าส่วนบนของรูขุมขนถูกปิดด้วยผิว ก็จะเรียกว่า "สิวหัวขาว" (Whitehead/Milia)

ถ้าไม่มีอะไรขวางรูขุมขน ส่วนบนของสารขาว ๆ ที่ก่อตัว จะถูกอากาศจนกลายเป็นสีดำ เรียกว่า สิวหัวดำ (Blackhead)

สิวอักเสบได้อย่างไร?

สิวหัวขาว และสิวหัวดำ จะกลายเป็นสิวอักเสบ เมื่อแบคทีเรียเติบโตในส่วนที่อุดตัน การอักเสบ และน้ำมันส่วนเกิน จะทำให้กำแพงของต่อมไขมันรั่ว และน้ำมัน เซลล์ผิวเก่า แบคทีเรียจะกระจายตัวไปทั่วเนื้อเยื่อผิวโดยรอบ ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจึงต้องเข้าไปต่อสู้ ซ่อมแซมผิว จึงทำให้บวม เป็นตุ่มสิวอย่างที่เห็น

วิธีปราบสิว

วิธีปราบสิวที่ดีที่สุด คือ การขัดผิว เพื่อลดการสะสมตัวของเซลล์ผิวที่ตาย ทั้งบนผิว และในรูขุมขน การฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว การดูดซับความมัน และสร้างสมดุลให้กับฮอร์โมนของร่างกาย เพื่อควบคุมการผลิตน้ำมัน
  • การล้างหน้า : ควรใช้เคลนเซอร์ที่ละลายน้ำ และไม่ผสมสารที่ทำให้ระคายผิว เช่น สบู่ สครับ เพื่อเลี่ยงการกระตุ้นต่อมไขมัน ลดการอักเสบของผิว และความแห้งกร้าน ส่วนเคลนเซอร์ที่ผสมสารขัดลอกเซลล์ผิว สารยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย หรือดูดซับน้ำมันส่วนเกินจะไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่ เนื่องจาก ก่อนที่สารเหล่านี้จะออกฤทธิ์คุณก็ล้างออกเสียแล้ว
  • ขจัดเซลล์ผิว : เพราะสิวเกิดขึ้นภายในรูขุมขน และเกี่ยวข้องกับการผลิตน้ำมัน ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ที่ผสมกรดซาลิไซลิก ซึ่งละลายในไขมัน จึงสามารถเข้าขัดลอกเซลล์ผิวเก่า ในรูขุมขนได้อย่างอ่อนโยน แนะนำให้ใช้ประเภทเจลหรือโลชั่นเนื้อเบา ๆ ซึ่งไม่ผสมสารสร้างความหนืด หรือสารให้ความชุ่มชื่น อันจะอุดตันรูขุมขน ส่วนสครับ หรือกรด AHA มักไม่ค่อยได้ผล เนื่องจากตัวช่วยขัดลอกเซลล์ผิวเฉพาะภายนอก ไม่สามารถลงลึกถึงรูขุมขนได้
  • ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย : แอลกอฮอล์ หรือซัลเฟอร์ เป็นสารฆ่าเชื้อที่ดี แต่ทำให้ผิวแห้งและระคายจนทำให้เกิดสิวใหม่ คุณจึงควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผสมน้ำ มีทีทรี หรือเบนซอยล์เพอร๊อกไซด์ ที่มีความเข้มข้นประมาณ 2.5% 5% หรือ 10% ส่วนการกินยาแอนตี้บอดี้สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียซึ่งก่อสิวได้จริง แต่จะทำลายแบคทีเรียตัวที่เป็นประโยชน์แก่ร่างกายไปด้วยเช่นกัน
  • เพิ่มการสร้างเซลล์ผิว : คุณหมออาจให้ใช้สารจำพวกเตรตินอยน์ ดิเฟอรีน และกรดอะเซลาอิก ซึ่งช่วยให้เจริญเติบโตได้ดี จนสามารถเปลี่ยนแปลงรูปร่างของรูขุมขน และช่วยให้การขับน้ำมันสะดวกราบรื่น
  • ที่พึ่งสุดท้าย : ถ้าหากสิว ยังคงอยู่ทน แม้คุณจะทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ทุกรูปแบบแล้วก็ตาม คุณก็ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนัง เพราะยังมียารับประทานอีกตัวหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกแล้วว่า สามารถรักษาสิวได้ผลดีเยี่ยม นั่นก็คือ "อัคคูเทน" ซึ่งเป็นวิตามินเอปริมาณสูง มักใช้ในกรณีที่เกิดสิวรุนแรง และยังช่วยทำให้ผิวเนียนกระชับสวยขึ้นด้วย แต่ยาตัวนี้ควรเป็นทางเลือกสุดท้ายจริง ๆ และต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากยานี้มีผลข้างเคียงที่ค่อนข้างรุนแรง เช่น ก่อให้เกิดความผิดปกติในการตั้งครรภ์ และปัญหาทางจิตได้

No comments:

Post a Comment