Search This Blog

Thursday, January 14, 2010

Jet Lag

ช่วงที่มีวันหยุดยาว ๆ อาจเรียกได้ว่าเป็น "ฤดูท่องเที่ยว" หลายคนตัดสินใจเดินทางไปในประเทศที่มีอากาศหนาว หากต้องเดินทางไปในที่ไกล ๆ ก็มักจะต้องประสบกับอาการแปลก ๆ หลังจากเดินทางข้ามทวีป หรือข้ามโซนของเวลาหลาย ๆ โซน คือ รู้สึกง่วงนอน อ่อนเพลีย ไม่สบายตัว รู้สึกหดหู่ นอนไม่หลับ ฉุนเฉียวง่าย เกิดความสับสน และบางทีอาจสูญเสียความจำไป อาการเหล่านี้ เราเรียกกันว่า "Jet lag" นั่นเอง นอกจากอาการเหล่านี้แล้ว ยังมีการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ เกิดขึ้นกับหน้าที่พื้นฐานต่าง ๆ ของร่างกายด้วย เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ ความดันเลือด และกระบวนการหายใจอีกด้วย

Jet lag เป็นอาการที่ทำให้รู้สึกแย่มาก เมื่อเราต้องเดินทางข้ามเส้นแบ่งโซนของเวลา ตั้งแต่ 4 โซนขึ้นไป หรือเมื่อเราหลงเวลาในการเดินทางจากตะวันออกไปยังตะวันตก การฟื้นคืนจากอาการ jet lag จะต้องใช้เวลา ในอัตราส่วนประมาณ 1 โซนต่อ 1 วัน (เช่น ถ้าเราข้ามโซนของเวลา 4 โซน ต้องใช้การฟื้นตัวประมาณ 4 วัน) อย่างชัดเจน อาการ jet lag สามารถที่จะหยุดชะงักความสนุกสนาน หรือความกระตือรือร้นของเราให้จืดจางลงไปได้ อาจมีผลกระทบต่อการทำงาน สำหรับนักธุรกิจที่ต้องเดินทางเพื่อธุรกิจ

ก่อนการเดินทาง
ควบคุมเวลาอาหารของเรา เพื่อว่าในวันที่เราต้องบิน เราจะได้พร้อมที่จะกินอาหารที่เหมาะสมกับเวลา ณ จุดหมายปลายทางของเรา ควบคุมตารางเวลาการนอน และการพักผ่อนของเราเอาไว้ เพื่อจะได้ไม่ต้องตึงเครียด หรือเกิดอาการเมื่อเริ่มต้นการเดินทางอันยาวนาน


ช่วงระหว่างการบิน
แต่งตัวสบาย ๆ และพยายามปลดเสื้อผ้าที่รัดออก ปรับเข็มนาฬิกา โดยตั้งเวลาของนาฬิกาตามจุดหมายปลายทางของเรา และเริ่มต้นทำตัว ให้ดำเนินชีวิตอยู่กับเวลานั้นในใจ ถ้าหากว่าเวลาในจุดหมายปลายทางของเรา เป็นช่วงเวลาที่เรามักจะวิ่งจ็อกกิ้งเสมอ ก็ให้จินตนาการว่า กำลังวิ่งจ็อกกิ้งอยู่ เราอาจพยายามออกกำลังกายบางอย่างในที่นั่งด้วยก็ได้ เช่น อาจจะโน้มคอไปข้างหลังสัก 5 ครั้ง เพื่อบริหารคอ และบริหารกล้ามเนื้อแผ่นหลังด้านบน หรืออาจจะเบ่ง และผ่อนคลายหน้าอก ท้อง และสะโพกสัก 5 ครั้ง กินอาหารเบา ไม่หนักท้องมาก และถ้าเป็นไปได้ ให้กินอาหารที่เหมาะสมกับเวลาตามเวลา ในจุดหมายปลายทางที่จะไปถึง พยายามหลีกเลี่ยงพวก ลูกกวาด คาเฟอีน และพวกแอลกอฮอล์ต่าง ๆ เพราะสิ่งเหล่านี้ จะทำให้เราไม่ได้พักผ่อน

ยิ่งกว่านั้นพวกคาเฟอีน และแอลกอฮอล์ จะเพิ่มปฏิกิริยาต่าง ๆ ในการขจัดน้ำออกจากร่างกายของผู้โดยสารที่เพิ่มความกดดัน แนะนำให้ดื่มน้ำผลไม้มาก ๆ และน้ำเปล่าแทน สำหรับนักเดินทาง ที่มีประสบการณ์บางคน พยายามที่จะดื่มน้ำผลไม้หนึ่งแก้ว หรือน้ำเปล่า สำหรับทุก ๆ ชั่วโมง ที่พวกเขากำลังบินอยู่ ท้ายที่สุดให้นอน และตื่นขึ้นตามตารางเวลาในจุดหมายปลายทางของเรา เมื่อคุณ ถึงที่หมาย ให้นอนตามเวลาของท้องถิ่นนั้น ๆ ที่เราไปถึง ทั้งการกินอยู่ และการทำกิจกรรมต่าง ๆ ไปตามตารางเวลาทุกประการ หากว่าเราจะต้องนอน ในช่วงระหว่างเวลากลางวัน ให้นอนน้อยกว่าสองชั่วโมง ให้ออกนอกบ้าน ในตอนที่มีแสงสว่าง (หมายถึง เวลาเช้า เร็วเท่าที่จะทำได้สักประมาณ 2 ชั่วโมง) แสงสว่างของดวงอาทิตย์ จะช่วยให้เราปรับนาฬิกาชีวภาพในร่างกายใหม่เร็วขึ้น ในท้ายที่สุด ลองดื่มนมสักแก้ว หรือกินไอศกรีม ก่อนที่จะเข้านอน ถ้าหากว่ามีปัญหาในเรื่องการนอน
ข้อแนะนำข้างต้นฟังดูแล้วอาจคล้ายกับการรักษาแบบพื้นบ้านในสมัยก่อน แต่ก็วางอยู่บนรากฐาน ที่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ด้วย ซึ่งผลิตภัณฑ์นม มีคุณสมบัติหลายประการ ที่มีอิทธิพลต่อความง่วงเหงาหาวนอน


คำแนะนำต่าง ๆ เหล่านี้ เป็นไปได้ที่อาจจะไม่ได้ทำให้เราสามารถเอาชนะอาการ jet lag ได้อย่างสมบูรณ์ แต่จะสามารถช่วยลดอาการที่ไม่สบายต่าง ๆ ของการเปลี่ยนแปลงเรื่องโซนเวลาของเราได้บ้าง สิ่งที่ทำงานได้ผลดีที่สุดสำหรับคน ๆ หนึ่งนั้น อาจไม่จำเป็นต้องได้ผลดีที่สุดสำหรับคนอีกคนหนึ่ง ด้วยเหตุนี้ ขอให้คิดถึงข้อแนะนำต่าง ๆ เหล่านี้ในฐานะที่เป็นแนวทาง สำหรับพัฒนาแผนการต่าง ๆ ของตัวเราเอง เพื่อการบินที่เป็นปกติ


ที่มา
ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู โรงพยาบาลเวชธานี

No comments:

Post a Comment