Search This Blog

Thursday, August 27, 2009

โรคหลอดเลือดสมอง

โรคหลอดเลือดสมองดูแล้วน่ากลัว ถ้าเป็นแล้วครั้งหนึ่งจะมีความทุพพลภาพ ส่งผลต่อชีวิตและหน้าที่การทำงาน หากไม่ได้รับการดูแลและแก้ไข คนไข้จะมีปัญหาตามมามากมาย ไม่ใช่เกิดขึ้นเฉียบพลันและเป็นตรงนั้น แต่ผลที่ตามมาค่อนข้างสำคัญมาก

"โรคหลอดเลือดสมอง" เป็นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดแดงและหลอดเลือดดำ แต่ส่วนใหญ่หมายถึงหลอดเลือดแดงในสมองซึ่งอาจเกิดภาวะตัน ตีบหรือแตกง่ายกว่า

มองง่าย ๆ เหมือนท่อน้ำขนาดเล็กที่ต่อเข้าสู่แท็งก์ นั่นก็คือ หลอดเลือดที่สูบฉีด เลือดแดงเข้าสู่สมอง ส่วนหลอดเลือดดำ คือ ทางระบายน้ำออก ซึ่งทางระบายน้ำออกจะมาจากท่อใหญ่ความดันไม่สูงมาก ฉะนั้นการเกิดโรคกับหลอดเลือดดำจึงค่อนข้างน้อย

โรคหลอดเลือดสมองแตก ตีบ หรือตัน ที่พูดกันทั่วไปอาการคล้ายกัน ขึ้นอยู่กับปริมาณเนื้อสมองที่ถูกกระทบกระเทือน หากว่าเนื้อสมองตรงนั้นควบคุมแขนขา แขนขาจะอ่อนแรง

ถ้าเกี่ยวข้องกับศูนย์การพูด บางคนอาจพูดไม่ได้ ด้านการมองเห็น บางคนอาจมองไม่เห็น หรือเห็นภาพซ้อน

หากเป็นในส่วนอื่น บางทีกระทบการพูด พูดไม่ได้ บางคนพูดแล้วไม่เข้าใจ ถ้าไปโดนส่วนที่เกี่ยวข้องกับการทรงตัวอาจจะทรงตัวไม่อยู่ นั่นคืออาการเตือน

"ส่วนใหญ่ปัญหาของผู้ป่วยโรคสมอง หรือประชาชนทั่ว ๆ ไปจะไม่ได้ตระหนักหรือคำนึงถึงอาการว่าเป็นอย่างไร บางทีคิดว่าพูดไม่ชัดเฉย ๆ เป็นเพราะฟันหรือเปล่า หรือมองไม่เห็นไปหาหมอตาหรือเปล่า ถ้ามีอาการต่าง ๆ ซึ่งเป็นอาการเตือน การมาหาหมอเร็วเท่าไหร่จะช่วยได้มาก โดยโรคหลอดเลือดสมองจะเกิดขึ้นกับคนอายุ 45 ปีขึ้นไป และตัวเลขมีแนวโน้มอายุน้อยลงเรื่อย ๆ หากพบว่าตัวเองหรือคนใกล้ตัวกำลังมีอาการให้รีบมาพบแพทย์ทันที"

ปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เป็นโรคหลอดเลือดสมอง มี 2 อย่าง

ปัจจัยแรกเป็นปัจจัยที่แก้ไขไม่ได้ คือ อายุที่มากขึ้น และต้องระวังหากมีโรคอื่น ๆ ที่เป็นตัวกระตุ้น เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเส้นเลือด โรคหัวใจ

ปัจจัยที่สองเป็นปัจจัยเสี่ยงที่แก้ไขได้ เช่น คนที่สูบบุหรี่ จะทำให้เส้นเลือดเสียเร็วขึ้น ถ้าปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ได้รับการแก้ไขหรือลดลง โอกาสเป็นเส้นเลือดสมองจะน้อยลง

สำหรับการดูแลตัวเอง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมองและประสาทวิทยา แนะนำว่า หากจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงอายุเกินกว่า 40 ปี หรือ 45 ปี ต้องเข้ารับการตรวจร่างกายประจำ หากพบความเสี่ยงต่างๆ อย่างน้อยพยายามแก้ไขหรือป้องกัน เช่น มีไขมันสูงต้องควบคุม การออกกำลังกายที่สม่ำเสมอช่วยได้ แต่อย่าหักโหม

หากมีอาการเบา หวานต้องระวังไม่ให้น้ำตาลในเลือดสูง โรคหลอดเลือดสมองไม่ใช่เป็นโรคที่รักษาแล้วไม่หายขาด แต่กลับมาดำเนินชีวิตได้ถ้ามีกำลังใจ

No comments:

Post a Comment